ปั๊มติ๊ก (Fuel Pumps)


  • ปั๊มติ๊ก เป็นชื่อเรียกอย่างไม่เป็นทางการของปั๊มน้ำเชื้อเพลิงในรถเก๋งที่ใช้น้ำมัน เบนซิน และสาเหตุที่มีชื่อเรียกอย่างนั้นก็เพราะ แต่เดิมลักษณะการทำงานของปั๊มน้ำมันเชื้อเพลิง ใช้หลักการของการตัดต่อกระแสไฟที่ป้อนให้กับขดลวดแม่เหล็กไฟฟ้า ทำให้แผ่นไดอะเฟรมขยับตัวเข้าออก เมื่อประกอบเข้ากับชุดลิ้นปิดเปิด การขยับตัวของแผ่นไดอะเฟรมจะเกิดแรงดูดและแรงดันทำให้สามารถดูดน้ำมันเชื้อเพลิงจากถังป้อนให้ กับระบบเชื้อเพลิงได้ การทำงานของแผ่นไดอะเฟรมดังกล่าวจะมีเสียงดัง "ติ๊ก ๆ" เราเลยเรียกปั๊มตัวนี้ว่าปั๊มติ๊ก แต่ในปัจจุบันปั๊มชนิดนี้หาได้ยากแล้ว


  • รถเก๋งส่วนใหญ่จะมีปั๊มน้ำมันเชื้อเพลิงชนิดขับด้วยเฟืองและมอเตอร์ไฟฟ้า ประกอบเป็นชุดเดียวกันกับชุดลูกลอยวัดระดับน้ำมันและติดตั้งอยู่ในถังน้ำมัน เชื้อเพลิง ปัญหาของผู้ใช้รถก็คือ จะทราบได้อย่างไรว่า ปั๊มน้ำมันเชื้อเพลิงเสียหรือทำงานไม่เต็มประสิทธิภาพ เพราะถ้าเป็นปั๊มติ๊กแบบสมัยก่อน ถ้าไม่มีเสียงติ๊ก ๆ ให้ได้ยินก็สันนิษฐานได้เลยว่าปั๊มเสีย แต่ปั๊มรุ่นใหม่ นี้จะไม่มีเสียงอะไรให้ได้ยินเลย แต่จะมีอาการอยู่สองสามอย่างที่แสดงว่าปั๊มน้ำมันเชื้อเพลิงผิดปกติ อย่างแรกก็คือ เครื่องยนต์ดับไปเฉย ๆ แต่เมื่อทิ้งไว้สักครู่จะสตาร์ตได้อีก หรือเมื่อเร่งเครื่องยนต์แรง ๆ จะมีอาการสะดุดแล้วดับไป หรือมีอาการที่เรียกว่าเร่งไม่ขึ้น ทั้งหมดนั้นเป็นอาการผิดปกติของระบบน้ำมันเชื้อเพลิงทั้งสิ้น
  •  

  • วิธีแก้ไขมีอยู่ประการเดียวคือ รีบนำรถเข้าศูนย์บริการเพื่อตรวจสอบถ้าปั๊มน้ำมันเชื้อเพลิงเสียก๋คงต้อง เปลี่ยนใหม่ หรือถ้าเป็นเพราะท่อทางน้ำมันเชื้อเพลิงหรือไส้กรองตัน ช่างจะได้ทำความสะอาดเสีย การอุดตันของระบบน้ำมันเชื้อเพลิงเกิดจากสิ่งสกปรกที่ปนเปื้อนมากับน้ำมัน ป้องกันได้ง่าย ๆ โดยหลีกเลี่ยงการใช้น้ำมันที่ไม่มีชื่อผู้ผลิตหรือสถานีบริการน้ำมันที่ไม่ได้มาตรฐาน เพราะถังบรรจุอาจเกิดสนิมปนมากับน้ำมันเชื้อเพลิงที่เราเติมได้
[ คัดลอก จากหนังสือพิมพ์เดลินิวส์ วันอาทิตย์ที่ 12 กันยายน 2542]

ที่มา http://www.elib-online.com/cars/oeo_pump01.html


วิธีการการเปลี่ยน
1. นำเบาะนั่งหลังออกก่อนครับ เพราะเจ้าปั๊มจะอยู่ใต้เบาะนั้นเอง


2. เมื่อนำเบอะนั่งหลังออกแล้ว จะเห็นว่ามีแผ่นเหล็กตรงกลางใต้เบาะนั่งหลังเป็นรูปวงรี


3. อ้าวเตรียมไขควงมาไขน๊อต สี่ตัว


4. เสร็จแล้วก็เปิดฝาออก จะพบกับสายไฟ ท่อต่างๆ


5. ให้ดึงปลั๊กไฟออก โดยเปิดยางหุ้มออก แล้วกดไปที่ตัวล๊อกข้างๆ


6. จากนั้นจะเห็นปลั๊กสีเขียวอ่อน และท่อยางที่ต่อกับตัวปั๊ม โดยกดตัวล๊อกทั้งสองข้างที่ปลั๊กเขียวอ่อนออก (ในส่วนท่อเส้นนี้ ถ้าขับรถมาแล้วดับเครื่องได้ไม่นาน เมื่อถอด

ออกใหม่ๆจะมีน้ำมันเชื้อเพลิงออกมามากนะครับ ไม่ต้องตกใจปล่อยให้มันไหลออกไปจนหมด แต่ถ้าให้แนะนำ ควรจดรถทิ้งไว้นานๆก่อนแล้วค่อยมาทำจะดีกว่าครับ)

โดยหาผ้าซักชิ้นมาคอยซับน้ำมันที่ออกมา


7. จากนั้นให้นำคีมปากใหญ่ๆหน่อยมาบีบตัวล๊อกของท่ออีกตัวออก แล้วดึงท่อยางออก (ท่อนี้จะไม่มีน้ำมันเชื้อเพลิงครับ สบายหน่อย)


8. จากนั้นใช้ประแจเบอร์สิบ นำน๊อตหกตัวออกมา


9. แล้วค่อยๆนำปั๊มออกมา โดยต้องระวังนิดนะครับ หมุนไปทางซ้ายที หมุนไปทางขวาที จนออกมาดังรูป




10. จะเห็นปั๊มตัวเป็นๆแล้วครับ มันเป็นอย่างนี้เอง สีทองๆ


11. ยังไม่เสร็จนี้คือการเริ่มต้นครับ เพราะเราจะต้องนำปั๊มของเจ้า J มาเปลี่ยน จึงต้องทำการสลับร่างเปลี่ยนรักกันครับ โดยดึงปลั๊กสายไฟออก


12. จากนี้เราจะนำตัวปั๊มออกมาจากโครงเหล็ก โดยให้จับที่ตัวปั๊มแล้วหมุนไปหมุนมาจนตัวปั๊มออกจากโครงเหล็ก (ระวังนิดนะครับ)




13. จากนั้นให้นำคีมบีบเอาตัวล็อกสายยางออก แล้วดึงตัวปั๊มสีทองออกมา


14. จากนั้นเราจะต้องเปลี่ยนผ้ากรอง โดยใช้ไขควงตัวเล็กงัดสลักออกมา (ต้องระวังเป็นพิเศษครับ ถ้าไม่ชำนาญจะเอาออกยากหน่อยครับ)


15. เมื่อเอาตัวสลับล๊อกกลมๆออกได้ก็จะพบกับปั๊มของ EK ดังรูปภาพครับ




16.จากนั้นก็มาที่ตัวปั๊มที่เราเตรียมสำหรับจะเปลี่ยนครับ ในที่นี้จะเป็นของ JZ ครับ จะเป็นสีอกกดำๆ


17. ส่วนมาที่มาจะมีกรองติดมาด้วยครับ แล้วแต่ร้านที่เค้าขาย ถ้าขยันเค้าจะถอดจนเหลือแค่ตัวปั๊มครับ ถ้าไม่ขยันก็ติดมาทั้งยวงเลย มาต่อโดยการเอาสลักล๊อกของ JZ ออกเพื่อนำผ้ากรองของ EK มาใส่แทน (มันจะพอดีกันเลยครับ สงสัยโรงงานผลิตเดียวกัน) แล้วใส่สลักล๊อกกลมเข้าไปเพื่อล๊อกเหมือนเดิม






18. จากนั้นให้นำตัวปั๊มมาเทียบเพื่อจะวัดความยาวของท่อน้ำมัน (ของเดิมจะยาวไป เราต้องตัดออกประมาณ เกือบหนึ่งเซ็นติเมตร) เมื่อวัดได้ที่แล้ว ให้ใช้คัดเตอร์ตัดส่วนที่เราวัดออก




19. เมื่อตัดเสร็จแล้ว มาถึงขั้นตอนการประกอบเข้ารูปให้ใช้งานได้แล้วครับ โดยนำปั๊มมาใส่ท่อก่อน แล้วส่วนหัวที่มีแผ่นกรองค่อยๆ หมุนเข้าไปให้อยู่ในช่อง จากนั้นก็ให้ใช้คีมบีบตัวล๊อกที่ท่อ (ต้องใส่ให้เรียบร้อยก่อนแล้วค่อยใช้คีมบีบตัวล๊อกนะครับ ไม่งั้นท่อยางจะบิดแล้วจะใส่ยากมาก) ต่อด้วยเสียบปลั๊กสายไฟที่เป็นสีดำครับ




20. กลับมาเป็นเหมือนเดิมแล้ว โดยมีการเปลี่ยนแปลงที่ตัวปั๊มเท่านั้นเอง


21. นำกลับมาใส่ที่รถเราแล้ว หมุนซ้ายที หมุนขวาที ค่อยๆใส่เข้าไปครับ เดี๋ยวก็เข้าเอง เมื่อใส่ปั๊มจนเข้าเรียบร้อยแล้ว ให้ใส่น๊อต(เบอร์สิบ) ก่อนเพื่อความแข็งแรง จากนั้นก็กลับมาใส่ท่อทั้งสองอัน จากนั้นให้ใส่ปลั๊กไฟสีน้ำตาล (ตรวจเช็คดูให้ดีก่อนอีกครั้งว่าไม่ลืมใส่อะไรกลับคืนนะครับ)



22. พอใส่เรียบร้อยแล้ว เรามาลองปั๊มกันครับว่าโอเคป่าว โดยให้ใครก็ได้ครับ บิดสวิทช์กุญแจจนสุดแต่ไม่ต้อง Start นะครับ แล้วตอนบิดกุญแจให้ลองฟังที่ตัวปั๊ม ว่ามีเสียงทำงานข้องมอเติอร์หรือป่าว (ก่อนซื้อให้เค้าทดลองว่าปั๊มที่ซื้อมาใหม่ ใช้งานได้ก่อนนะครับ) ถ้ามันไม่สีเสียงของมอเตอร์ก็งานเข้า ให้บิดสวิทช์กุญแจคืน แล้วลองกลับไปทำตั้งแต่ต้นใหม่ แต่ถ้ามีเสียงดังของมอเตอร์ ก็ให้ Start รถได้เลย (ครั้งแรกจะติดยากหน่อย แต่ก็ไม่ยากมาก) แล้วลองฟังเสียงมอเตอร์อีกครั้ง ค่อยเหยียบคันเร่งดูถ้าไม่มีปัญหา ก็ดับเครื่องยนต์ นำกุญแจออกมาเลยนะครับ แล้วเราก็กลับมาปิดฝาคืนให้อยู่สภาพเหมือนเดิม




23. ใส่เบาะนั่งหลังให้เรียบร้อย แล้วขับรถเพื่อทดสอบว่ามีปัญหาหรือป่าว ถ้าไม่มีก็จบ


0 ความคิดเห็น: